ไหว้พระ 9 วัด อยุธยา ในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ วันขึ้นปีใหม่ วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา หรือ ช่วงนี้ใครกำลังรู้สึกว่าดวงไม่ดี หวยไม่ถูก งานก็ไม่ราบรื่น และยังไม่รู้ว่าจะไปทำบุญที่ไหนดี คนส่วนใหญ่มักวางแผนเดินทางไปทำบุญ ไหว้พระ 9 วัด อยุธยา เพื่อเสริมสร้างสิริมงคลแก่ตนเองตามสถานที่ต่างๆ แถมยังเดินทางไปง่าย เที่ยวเช้า-เย็นกลับได้สบายๆ และที่สำคัญ อยุธยา นั้นเต็มไปด้วยวัดแทบจะทั้งเมือง ว่าแต่จะไป เที่ยวอยุธยาวันเดียว ที่วัดไหนกันบ้าง ตามไปดูกันเลย …
1.วัดใหญ่ชัยมงคล
เริ่มทริป ไหว้พระ 9 วัดอยุธยา กันที่วัดใหญ่ชัยมงคล วัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นอย่างมาก ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวัดสวย แลนด์มาร์คหนึ่งของจังหวัดอยุธยาเลยก็ว่าได้ และไม่ว่าใครที่มา เที่ยวอยุธยา ก็ต้องได้มาสักการะที่วัดแห่งนี้ สถาปัตยกรรมที่โดดเด่นที่สุดในวัดก็คือ เจดีย์ใหญ่ที่สูงที่สุดในอยุธยา สามารถขึ้นบันไดไปชมเจดีย์ด้านบนได้ ส่วนบริเวณรอบๆ วัดก็มีสวนหย่อมให้เดินชมบรรยากาศ อีกทั้งด้านหลังวัดยังมี ตำหนักสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ให้เราเข้าไปกราบไหว้ได้อีกด้วย
เปิดบริการ: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น.
ค่าเข้าชม: เสียค่าเข้าชมเฉพาะชาวต่างชาติ 20 บาท
2.วัดพนัญเชิงวรวิหาร
วัดพนัญเชิงวรวิหาร เพียงออกจากวัดใหญ่ชัยมงคลเลี้ยวซ้ายขับรถลึกเข้ามาตามถนนเดิมใกล้กับวัดใหญ่ฯ วัดพนัญเชิงวรวิหาร อยู่ทางขวามือ ระยะทางแค่ 1.5 กิโลเมตรเท่านั้นเอง
วัดพนัญเชิงวรวิหาร เป็นวัดที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในอยุธยา เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ก่อนการสถาปนากรุงศรีอยุธยา มาวัดนี้แล้วต้องไม่พลาดการสักการะและขอพร พระพุทธไตรรัตนนายก หรือ หลวงพ่อโต หรือ เจ้าพ่อซำปอกง พระพุทธรูปทองคำสมัยอยุธยาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ประดิษฐานอยู่ภายในพระอุโบสถ เราสามารถทำบุญด้วยการถวายผ้าห่มแด่องค์หลวงพ่อโตได้ที่บริเวณโต๊ะด้านหน้าองค์ท่าน รับพรจากพระสงฆ์ รับสายสิญจน์ รับการพรมน้ำมนต์ ไหว้ศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก และให้อาหารปลาบริเวณท่าน้ำ
เปิดบริการ: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00 – 18.00 น.
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/วัดพนัญเชิงวรวิหารหลวงพ่อโต
3.วิหารพระมงคลบพิตร
มาถึงวัดที่สาม สำหรับวิธีการเดินทาง ย้อนกลับไปทางวงเวียนเจดีย์วัดสามปลื้ม คราวนี้เจอวงเวียนให้เลี้ยวขวา ข้ามสะพานปรีดี-ธำรง (ข้ามแม่น้ำป่าสัก) ตรงไปจนสุดทางเจอสามแยกให้เลี้ยวขวา เจอวงเวียนเล็กๆ ให้ตรงไป จะเห็น วิหารพระมงคลบพิตร อยู่ซ้ายมือ อยู่ติดกับพระราชวังโบราณ
วิหารพระมงคลบพิตร วัดเก่าแก่ที่สันนิษฐานว่าสร้างในรัชสมัยของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ เป็นหนึ่งในวัดที่นักท่องเที่ยวนิยมมากราบไหว้ขอพรกันมากมาย ภายในพระวิหารเป็นที่ประดิษฐาน พระมงคลบพิตร พระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ ศิลปะแบบสมัยอยุธยาตอนต้น หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์องค์เดียวในประเทศไทย เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองกรุงศรีอยุธยามายาวนาน เชื่อกันว่าหากได้มากราบไหว้และขอพรก็จะเป็นการเสริมบารมีและสิริมงคลให้กับทุกด้านของชีวิต ต่อด้วยเข้าไปเดินชมพระราชวังโบราณก็ได้ แล้วไปเดินตลาดบริเวณหน้าวิหารพระมงคลบพิตร ซึ่งมีร้านค้าตั้งเรียงรายมากมายหลายร้าน จำหน่ายผลิตภัณฑ์พื้นเมืองแทบทุกชนิด เช่น ปลาตะเพียน เครื่องจักสาน เครื่องหวาย มีด ผลไม้กวน และขนมชนิดต่างๆ
เปิดบริการ: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น.
ค่าเข้าชม: ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 30 บาท ส่วนเด็ก นักเรียนหรือนักศึกษาในเครื่องแบบ ไม่เสียค่าเข้าชม
4.วัดธรรมิกราช
มาตามถนนอู่ทอง วัดธรรมิกราช อยู่ทางซ้ายมือค่ะ วัดธรรมิกราช วัดเก่าแก่ที่พระมหากษัตริย์เสด็จมาฟังธรรมกันประจำในวันพระ ส่วนในปัจจุบันยังมีพระสงฆ์ประจำอยู่ ภายในมี วิหารหลวงขนาดใหญ่ ซึ่งเคยเป็นที่ประดิษฐานเศียรพระพุทธรูปหล่อสัมฤทธิ์ ศิลปะสมัยอู่ทอง พระพักตร์เป็นสี่เหลี่ยม หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า หลวงพ่อแก่ และเป็นสถานที่สอบเปรียญธรรมสำหรับพระสงฆ์ในสมัยโบราณอีกด้วย นอกจากนี้ภายในวัดยังมี วิหารพระนอน ที่เชื่อกันว่า ถ้าได้มากราบไหว้แล้วจะให้คุณเมตตามหานิยม รวมถึงยังมีเจดีย์ทรงกลมที่มีปูนปั้นรูปสิงห์ล้อมรอบ 52 ตัว ซึ่งมีความสง่างามแตกต่างจากที่อื่นและหาชมได้ยากอีกด้วย
เวลาเปิด-ปิด : 08.30 – 16.30 น.
5.วัดหน้าพระเมรุ
มาถึงวัดที่ห้ากันแล้ว วิธีการเดินทางเพียงออกจากวัดธรรมมิกราช เลี้ยวซ้ายไปตามถนนไม่เกิน 300 เมตรจะเห็นสะพานข้ามคลองอยู่ขวามือ ข้ามสะพาน ขับไปแค่นิดเดียวเลี้ยวซ้าย วัดหน้าพระเมรุ อยู่ขวามือ
เป็นวัดแห่งเดียวในกรุงศรีอยุธยาที่ไม่ถูกทำลายในเหตุการณ์เสียกรุงครั้งที่ 2 เนื่องจากกองทัพพม่าได้ใช้ที่นี่เป็นสถานที่บัญชาการรบ ทำให้ที่วัดแห่งนี้ยังคงมีสถาปัตยกรรมศิลปะแบบอยุธยาที่สมบูรณ์และงดงามที่สุดให้เราได้ชมในปัจจุบัน มาถึงที่นี่อย่าลืมนมัสการ พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ พระประธานในอุโบสถซึ่งสร้างปลายสมัยอยุธยา เป็นพระพุทธรูปที่มีความงดงามมาก
เวลาเปิด-ปิด : 08.00 – 17.30 น.
6.วัดท่าการ้อง
อีกหนึ่งพิกัดที่ใครมา เที่ยวอยุธยา ก็นิยมมาไหว้พระขอพรกันก็คือ วัดท่าการ้อง วัดท่าการ้อง เป็นวัดที่ทันสมัย ไฮเทค แปลกกว่าวัดอื่นๆ จนเรียกได้ว่าเป็นเอนเตอร์เม้นท์คอมเพล็กซ์ด้านศาสนาเลยทีเดียว ทั้งตุ๊กตาปูนปั้น หุ่นคน หุ่นสัตว์ บางตัวมีกลไกลแมคานิคขยับได้ และเครื่องทำบุญเสี่ยงทายออโตเมติกต่างๆ วัดท่าการ้องเป็นวัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในชุมชนอิสลาม 2 หมู่บ้าน คือ บ้านท่า และบ้านการ้อง เป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธรัตนมงคล หรือที่เรียกกันว่า หลวงพ่อยิ้ม พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้าน
อีกทั้งด้านหลังของวัดท่าการ้องได้จัดให้เป็น ตลาดน้ำวัดท่าการ้อง ซึ่งเปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และ วันหยุดนักขัตฤกษ์ ที่นี่มีของกินหลากหลายชนิด ทั้งก๋วยเตี๋ยวเรือ ข้าวผัด ของกินเล่น ราคาของกินที่นี่ราคาก็ไม่แพงอีกด้วย
เปิดให้เข้าชม : 08.00-17.00 น.
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/watthakarong
7.วัดกษัตราธิราชวรวิหาร
ออกจากวัดท่าการ้องขับรถย้อนกลับมาทางเดิมที่ วัดกษัตราธิราชวรวิหาร วัดกษัตราธิราชวรวิหาร อีกหนึ่งวัดเก่าแก่ที่สร้างตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมมีชื่อว่า วัดกษัตราราม ที่แปลว่า วัดของพระมหากษัตริย์ ที่นี่เป็นพระอารามหลวงเก่าสมัยกรุงศรีอยุธยา ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งนอกเกาะเมืองทางด้านทิศตะวันตก และด้วยทำเลนี้เองพม่าจึงได้ยกทัพมาตั้งที่วัด และใช้เป็นที่ตั้งปืนใหญ่เพื่อใช้ยิงข้ามแม่น้ำเข้ามาในพระนคร วัดแห่งนี้มีพระประธานคือ พระพุทธกษัตราธิราช ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยตั้งอยู่บนแท่นสิงหาสน์ หน้าแท่นประดับด้วยผ้าทิพย์ปูนปั้น รวมถึงยังมี พระวิหาร 4 หลัง อีกด้วย เชื่อกันว่าถ้าได้มากราบไหว้พระที่วัดแห่งนี้จะทำให้มีเมตตามหานิยม อยู่ยงคงกระพัน และเสริมบารมีให้หน้าที่การงาน ทำงานได้ประสบความสำเร็จอีกด้วย
เวลาเปิด-ปิด : 08.30 – 16.30 น.
8.วัดธรรมาราม
เดินทางมาถึงวัดที่แปดกันแล้ว วัดธรรมาราม ภายในวัดยังมีพระอุโบสถที่งดงาม และเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธชินราชจำลอง เป็นพระประธาน สามารถเข้ามากราบไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลกันได้ ซึ่งวัดธรรมาราม เป็นวัดเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างศรีลังกากับไทยในสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยมีพระอุบาลีมหาเถระจากวัดนี้ได้เดินทางไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่ศรีลังกา
เวลาเปิด-ปิด : 08.00 – 17.00 น.
9.วัดพุทไธศวรรย์
จบทริปไหว้พระ 9 วัดอยุธยา ด้วยวัดพุทไธศวรรย์ ที่มีความสำคัญในสมัยกรุงศรีอยุธยา และเป็นอีกหนึ่งวัดที่ไม่ได้ถูกพม่าทำลาย ภายในมีวิหารพระนอน หมู่พระเจดีย์สิบสององค์ ตำหนักท้าวจตุคามรามเทพ รวมถึงพระอุโบสถ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐาน หลวงพ่อดำ พระพุทธรูปปูนปั้นสีดำปางมารวิชัย ศิลปะแบบอยุธยาตอนต้น มีปรางค์ประธานองค์ใหญ่ศิลปะแบบขอม มีมณฑป 2 หลัง ซึ่งชาวบ้านนิยมมากราบไหว้ขอพรให้หายเจ็บป่วย รวมถึงการขอบุตร
เวลาเปิด-ปิด : 08.00 – 17.00 น.
จบทริปเที่ยวไหว้พระ 9 วัด อยุธยา 1 วันเต็มๆ ซึ่งเชื่อว่าทุกคนคงจะอิ่มบุญกันถ้วนหน้า การเดินทางไปอยุธยาใช้เวลาไม่มากนัก ดังนั้นจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่จะพาครอบครัว คนรักไปเปลี่ยนบรรยากาศ รวมถึงยังได้ชมโบราณสถานในสมัยก่อนที่งดงามอีกด้วย
ติดตามรีวิวการท่องเที่ยว TravalDB.me
Recent Comments