London Eye หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Millennium Wheel เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของกรุงลอนดอนที่หลายคนคุ้นชินกันดี เป็นชิงช้าสวรรค์ที่มีขนาดใหญ่และสูงที่สุดในยุโรป ซึ่งมีความสูงถึง 135 เมตร หรือ 443 ฟุต ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเทมส์ ย่าน Southwark เปิดให้ประชาชนเข้าชมอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2000 ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการชมวิวทิวทัศน์ของเมืองลอนดอนที่ค่อยๆเคลื่อนสูงขึ้นได้แบบ 360 องศา และสถานที่สำคัญในลอนดอนทั้ง Big Ben, The Tower Bridge, St. Paul’s Cathedral, The River Thames และอีกมากมาย จนทำให้ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก และสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้อย่างไม่ขาดสาย

โดยขั้นตอนในการขึ้น London Eye อันดับแรกเลย ต้องซื้อตั๋วก่อน สามารถเลือกได้เลยว่าต้องการตั๋วแบบไหน หลังจากนั้นก็เข้าแถวรอคิวตรวจความเรียบร้อย ซึ่งห้ามพกอาวุธ อาหาร เครื่องดื่ม เข้าไปในกระเช้าเด็ดขาด พอตรวจเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ขึ้นกระเช้าจับจองพื้นที่ได้ตามที่ต้องการ โดยแต่ละกระเช้าสามารถบรรจุคนได้ประมาณ 25 คน หลังจากนั้นใครที่อยากจะถ่ายรูปเก็บบรรยากาศวิว ทิวทัศน์ ก็ทำได้เลยตามอัธยาศัย ในเวลาประมาณ 30 นาทีของแต่ละรอบ เรียกได้ว่า ชื่นชมบรรยากาศกันอย่างจุใจและคุ้มค่าเลยทีเดียว

London Eye 1

ชิงช้าสวรรค์ลอนดอนอาย เดิมเป็นเจ้าของโดย Tussauds Group, British Airways และตระกูล Marks Barfield Tussauds ได้ซื้อนักลงทุนรายอื่นเพื่อรับสิทธิ์การเป็นเจ้าของ ชิงช้าสวรรค์ 100% ในปี 2549 ในปี 2550 Merlin Entertainment ได้ซื้อกลุ่ม Tussauds Group และปัจจุบันยังคงเป็นเจ้าของ ดวงตาลอนดอน นี้อย่างเต็มรูปแบบ

พิธีเปิดอย่างเป็นทางการสำหรับชิงช้าสวรรค์ลอนดอนอาย จัดขึ้นเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 1999 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองพันปีในลอนดอน มันถูกเรียกว่า Millennium Wheel โดยชาวลอนดอนจำนวนมาก แม้จะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ แต่ลอนดอนอาย ก็ไม่ได้เปิดให้สาธารณชนเข้าชมจนถึงเดือนมีนาคมปี 2000 เนื่องจากปัญหาทางเทคนิคเล็กน้อย

ในวันที่ 1 มกราคม 2005 ชิงช้าสวรรค์แห่งนี้ได้กลายมาเป็นจุดสำคัญ ในการเฉลิมฉลอง วันส่งท้ายปีเก่า ของ ลอนดอน สิ่งนี้ยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน

สถาปนิก ผู้ออกแบบ London Eye ดวงตา แห่ง กรุงลอนดอน

กระบวนการ ออกแบบ สถาปัตยกรรมของ LondonEye เป็นการรวมกันของอิทธิพลที่หลากหลาย สถาปนิกจำนวนมาก ต่างให้เครดิตกับ การออกแบบ ของ ลอนดอนอาย เป็นอย่างมาก บุคคลหลักที่อ้างว่าเป็นสถาปนิกของ LondonEye ได้แก่ Frank Anatole, Julia Barfield, Steven Chilton, Nic Bailey, Malcolm Cook, Mark Sparrowhawk และ David Marks ซึ่งพวกเขาเหล่านั้น ได้ออกแบบสถาปัตยกรรมที่ ทั่วโลกต่างให้การยอมรับ ว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ ที่ต้องห้ามพลาด หากได้มาเยือนถิ่นลอนดอน

มีแคปซูล ผู้โดยสารทั้งหมด 32 แคปซูล แต่ละแคปซูลมีเครื่องปรับอากาศเพื่อให้บริการที่สะดวกสบายตลอดทั้งปี แคปซูลทั้งหมดได้รับการออกแบบมาเพื่อแสดงถึงหนึ่งในเมืองของลอนดอนและมีน้ำหนัก 10 ตัน ซึ่งจะใช้เวลาในการหมุน 30 นาทีต่อ 1 รอบ ที่นี่จะอนุญาตให้ผู้โดยสารที่พิการและผู้สูงอายุขึ้นไปบนชิงช้าสวรรค์ได้ มันถูกออกแบบมาให้เคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องและหยุดเพื่อให้ผู้โดยสารที่พิการหรือผู้สูงอายุมีเวลาขึ้นเครื่อง

ส่วนประกอบ สำหรับกระเช้า ขึ้นไปที่ แม่น้ำเทมส์ และถูกประกอบเข้ากับพื้นราบ ก่อนที่จะถูกยกขึ้น เมื่อล้อถูกสร้างขึ้นก็มีขั้นตอนการยกแตกต่างกันไป ขั้นตอนแรก นำล้อขึ้นไปที่ตำแหน่ง 65 องศา และปล่อยล้อเช่นนั้นนานกว่าหนึ่งสัปดาห์ สิ่งนี้ทำให้วิศวกร สามารถเตรียมฐานรากในแบบที่คงทนมากขึ้น น้ำหนักรวมของ ชิงช้าสวรรค์ลอนดอนอาย ทั้งหมดอยู่ที่ 1,700 ตัน และสร้างจากวัสดุที่ผลิตโดยสมาชิกสหภาพยุโรปทั้งสิ้น

London Eye 2
London Eye 3

ค่าใช้จ่าย

ค่าเข้าชม:ตั๋วเข้าชมจะมีหลายประเภท ตั้งแต่ Standard Entry, Fast Track Ticket, Private Capsules แต่โดยทั่วไปแล้ว ราคาเข้าชมปกติจะอยู่ที่ 21 ปอนด์
โดยสามารถจองตั๋วผ่านอินเตอร์เน็ตได้เพื่อเป็นการประหยัดเวลา หรือใครที่ไม่สะดวกก็สามารถมาซื้อที่ The London Eye ได้เช่นกัน

เวลาทำการ

เวลาเปิด-ปิด:เปิดทุกวัน 11.00 น. – 18.00 น.วันปิดทำการ:หยุดวันคริสมาส

วิธีการเดินทาง

นั่งรถไฟใต้ดิน Underground Tube ลงสถานี Westminster หรือสถานี Embankment

INFO

Location : Champ de Mars, Paris, France

WEBSITE : https://www.toureiffel.paris/en

ติดตามรีวิวการท่องเที่ยว TravelDB